![]() และทหารขึ้นลงอาบน้ำได้สะดวกและเป็นที่ทำขวัญช้างศึกของทัพเมืองสยามเมื่อหมดศึกสงครามแล้วชาวบ้านจึงเรียกชื่อวัดเปลี่ยนไปเป็น วัดราชช้างขวัญ |
วัดราชช้างขวัญ
มีอุโบสถหลังเก่าแก่ของวัด เป็นอุโบสถที่สร้างต่อเนื่องกันมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2310สมัยที่หลวงพ่อแจ่ม
ที่เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัด สร้างด้วยไม้หลังคามุงแฝก ฝาไม้ ใช้อิฐเรียงเป็นพื้นเมื่อพังลงก็ก่อสร้างทับใหม่คร่อมที่เดิมมาตลอด
กระทั่งมาเป็นอุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นมา เมื่อเดือนอ้าย ขึ้น 1 ค่ำ ปี พ.ศ.2459เสร็จเมื่อปี พ.ศ.2461 โดยมีหลวงปู่ศุข (พระครูวิมลคุณากร)วัดคลองมะขามเฒ่า จ. ชัยนาท มาช่วยหาปัจจัยสร้างอุโบสถด้วย |
![]() ไปประมาณ8กม.ด้วยในช่วงเวลาดังกล่าวเชื่อได้ว่าการสร้างพระอุโบสถของวัดราชช้างขวัญและวัดท่าฬ่อจะต้องมีความสัมพันธุ์ในการสร้างสอดคล้องด้วยกัน |
![]() อีกด้วยปี พ.ศ.2455 สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ได้เสด็จตรวจราชการ คณะสงฆ์ในมณฑลภาคเหนือได้ทรงมาประทับแรมที่ วัดท่าฬ่อ 1 ราตรี เห็นว่าวัดท่าฬ่อมีสิ่งก่อสร้างเช่น โบสถ์ กุฎิ หอสวดมนต์ พระเจดีย์ศาลาการเปรียญ และธรรมาศน์ มีความเจริญรุ่งเรืองจากการสร้างของหลวงปู่ภูจึงได้ขอพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นที่พระครูธุรศักดิ์ เกียรติคุณ |
![]() (เกิดพ.ศ.2390มรณภาพพ.ศ.2466สิริอายุ76ปี)มีพระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองพิจิตรคือหลวงพ่อเงินวัดบางคลาน(ชื่อใหม่วัดหิรัญญาราม)ก็ยังมีชีวิตอยู่หลวงพ่อเงินจะเป็นศิษย์ร่วมอาจารย์กับหลวงปู่ภู (ศิษย์หลวงพ่อโพธิ์ วัดวังหมาเน่า มรณภาพปีพ.ศ.2440)แต่หลวงพ่อเงินก็ไม่น่าจะมาร่วมสร้างวัดนี้เพราะขณะนั้นหลวงพ่อเงิน อายุมากถึง100กว่าปีแล้ว(หลวงพ่อเงินมรณภาพ ปีพ.ศ.2462 อายุ111ปี) |